View this post on Instagram

พี่ยอดเป็นสมาชิกในวงที่ผมเคยใช้เวลาด้วยน้อยที่สุด . แต่กลับกันในงานนับ1ถึง7นี้ กลับเป็นคนที่ผมได้พูดคุยมากที่สุด (เฉพาะเรื่องมีสาระนะ) . สิ่งนึงที่ยากลำบากในงานนี้ คือคนที่ห่างหายเวทีมายาวนานอย่างผม ที่ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่บนเวที ทั้งการเก็บหน้าตู้ไว้หลังเวที บนเวทีไม่มีมอนิเตอร์ซักตัว ต้องใช้หูฟังแบบ100% คนยุคเก่าอย่างผมไม่คุ้นเลย (แต่ที่สะดวกและชอบมาก คือการตั้งโปรแกรม midiเปลี่ยนเสียงเอฟเฟคให้เอง ...อเมซซิ่งง) จริงๆอย่าว่าแต่เทคโนโลยีใหม่เลยครับ แม้แต่เอฟเฟคกีต้าร์ตัวเอง ยังลืมไปแล้วว่าใช้ยังไง (วันแรกที่มาซ้อมกับวง ถึงกับกดผิด ไปลบ preset ตัวเองซะเกลี้ยง...อ๊ากกกก+) . พูดถึงวันซ้อมวันแรก (สำหรับคนที่ขึ้นเวที3ปีครั้งอย่างผม) ต้องบอกว่ามันเกร็งมาก มาถึงห้องซ้อมก็มีทีมงาน20กว่าคนจ้องดูเราอยู่ จากเมื่อก่อนอย่างมากก็มีแบคสเตจ2-3คน มาช่วยขนเครื่อง แต่20กว่าคนในห้องซ้อมนี่ เอิกเกริกกว่าเวลาไปออกทัวร์สมัยชุด1-2อีกนะ (ในใจก็คิดว่าในห้องซ้อมยังขนาดนี้ บนเวทีจะเกร็งขนาดไหน) . เข้าเรื่องซักที จะบอกว่านี่คือเหตุผลที่ผมได้คุยกับพี่ยอดเยอะกว่าคนอื่น เพราะขณะที่ผมง่วนอยู่กับเอฟเฟคกีต้าร์ตัวเอง แกก็จะมาด้อมๆมองๆถามว่า "โอเคมั้ย...ไม่ต้องรีบๆ..ใช้เวลาเต็มที่เลย" บางทีก็มาช่วยปรับบ้าง ชวนกินเบียร์บ้าง ตามประสา ในภาวะตึงเครียดนั้น การที่คนที่สนิทน้อยที่สุดมาชวนคุย มันทำให้เราผ่อนคลายลงอย่างน่าประหลาด เพราะความเครียดเกิดจากเราเกรงใจจะทำให้คนที่เราไม่สนิทด้วยเสียเวลา (หรือจริงๆแกอาจจะไม่ได้คิดไรมาก แค่ชวนคุยเล่นไปเรื่อยก็ได้ แต่อยากบอกว่ามันปลดล๊อคเราได้จริงๆ) . ภายนอกพี่ยอดดูเหมือนคนชิวๆ ไม่ค่อยจะซีเรียสหรือแคร์อะไร แต่พอได้รู้จักแล้ว ผมว่าพี่ยอดเป็นมืออาชีพ และให้เกียรติเพื่อนร่วมงานมากๆ . ซีนที่โซโล่กีต้าร์ด้วยกันจึงเป็นอย่างที่เห็น สำหรับผมมันเป็นช่วงเวลาที่ดูอบอุ่น เกื้อกูลกัน มากกว่าการชิงดีชิงเด่น (นาทีนั้นผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ และเชื่อว่าทุกคนที่ดูอยู่ก็รู้สึกแบบเดียวกัน) . พี่ยอดเหมาะสมแล้วสำหรับการเป็นมือกีต้าร์วงร๊อคอันดับ1ของประเทศครับ ....ดีใจที่ได้เล่นด้วยกันนะครับพี่❤️ . #bodyslam #นับ1ถึง7 #ยอดbodyslam

A post shared by Rattapol Phanchet (@rattapao) on