#วิธีการฝึกหายใจ เพื่อบริหารกล้ามเนื้อปอดและกระบังลม #และยังช่วยสร้างความอึด endurance 1️⃣ #แบบที่1 หายใจเข้าทางจมูกหายใจออกทางปากให้สั้นและเร็วและแรงเพื่อให้รู้สึกถึง แรงปั๊มลม หายใจเข้าให้ลึกถึงช่องท้องบริเวณสะดือให้ออกจากช่องท้องบริเวณสะดือ 2️⃣ #แบบที่2 หายใจเข้าและออกทางปาก โดยใช้การหายใจออกให้เป็นจังหวะเดียวกับการย่ำเท้า เพื่อให้การเคลื่อนไหวของร่างกายและลมหายใจเป็นไปในระยะความเร็วที่เท่ากัน ประโยชน์ของแบบที่2ก็คือเมื่อร่างกายของเราเคลื่อนไหวเร็วเท่าไหร่ ถ้าเราหายใจเร็วพอๆกับการเคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายของเราเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างความเร็วได้มากขึ้นในการวิ่ง 3️⃣ #แบบที่3 หายใจเข้าและออกทางปากเหมือนแบบที่2 แต่ใช้จังหวะของการเคลื่อนไหวส่วนบนเหมือนนักมวย เวลาเค้าจะต่อยกระสอบทราย เมื่อหมัดต่อยออกไปให้ใช้จังหวะลมหายใจออก หายใจเข้าทางปากดึงหมัดเข้าหายใจออกทางปากปล่อยหมัดออก ประโยชน์ของแบบที่3จะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายแบบการต่อยมวย ซึ่งถ้าเกิดเราใช้แรงของลมหายใจได้ดีเท่าไหร่ การต่อยหมัดที่หนักจะเป็นไปได้ดี ซึ่งหลายๆคนคิดว่าการที่เราจะปล่อยหมัดหนักและเร็วอยู่ที่การใช้ออกแรงของแขน,หัวไหล่และลำตัวเท่านั้น ความเป็นจริงแล้วพลังทั้งหมดมาจากลมหายใจเป็นจุดเริ่มต้น ‘ ‘ ‘ #สิ่งแรกที่เราควรจะต้องทำในการเริ่มต้นออกกำลังกายทุกรูปแบบก็คือการฝึกการหายใจเป็นอันดับเริ่มต้นก่อน เพราะตราบใดที่เรามีลมหายใจสั้นถึงแค่บริเวณกลางอกมันจะทำให้เราไม่สามารถที่จะพัฒนาระดับของการออกกำลังกายไปได้สูง ซึ่งความเป็นจริงแล้วร่างกายของเราสามารถไปได้ไกลกว่านั้นแต่ #เพียงแต่ว่าเราลืมฝึกหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามค่ะ A post shared by Healthymeijianorma (@meiji_27anorma) on Aug 21, 2018 at 6:10am PDT
#วิธีการฝึกหายใจ เพื่อบริหารกล้ามเนื้อปอดและกระบังลม #และยังช่วยสร้างความอึด endurance 1️⃣ #แบบที่1 หายใจเข้าทางจมูกหายใจออกทางปากให้สั้นและเร็วและแรงเพื่อให้รู้สึกถึง แรงปั๊มลม หายใจเข้าให้ลึกถึงช่องท้องบริเวณสะดือให้ออกจากช่องท้องบริเวณสะดือ 2️⃣ #แบบที่2 หายใจเข้าและออกทางปาก โดยใช้การหายใจออกให้เป็นจังหวะเดียวกับการย่ำเท้า เพื่อให้การเคลื่อนไหวของร่างกายและลมหายใจเป็นไปในระยะความเร็วที่เท่ากัน ประโยชน์ของแบบที่2ก็คือเมื่อร่างกายของเราเคลื่อนไหวเร็วเท่าไหร่ ถ้าเราหายใจเร็วพอๆกับการเคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายของเราเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างความเร็วได้มากขึ้นในการวิ่ง 3️⃣ #แบบที่3 หายใจเข้าและออกทางปากเหมือนแบบที่2 แต่ใช้จังหวะของการเคลื่อนไหวส่วนบนเหมือนนักมวย เวลาเค้าจะต่อยกระสอบทราย เมื่อหมัดต่อยออกไปให้ใช้จังหวะลมหายใจออก หายใจเข้าทางปากดึงหมัดเข้าหายใจออกทางปากปล่อยหมัดออก ประโยชน์ของแบบที่3จะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายแบบการต่อยมวย ซึ่งถ้าเกิดเราใช้แรงของลมหายใจได้ดีเท่าไหร่ การต่อยหมัดที่หนักจะเป็นไปได้ดี ซึ่งหลายๆคนคิดว่าการที่เราจะปล่อยหมัดหนักและเร็วอยู่ที่การใช้ออกแรงของแขน,หัวไหล่และลำตัวเท่านั้น ความเป็นจริงแล้วพลังทั้งหมดมาจากลมหายใจเป็นจุดเริ่มต้น ‘ ‘ ‘ #สิ่งแรกที่เราควรจะต้องทำในการเริ่มต้นออกกำลังกายทุกรูปแบบก็คือการฝึกการหายใจเป็นอันดับเริ่มต้นก่อน เพราะตราบใดที่เรามีลมหายใจสั้นถึงแค่บริเวณกลางอกมันจะทำให้เราไม่สามารถที่จะพัฒนาระดับของการออกกำลังกายไปได้สูง ซึ่งความเป็นจริงแล้วร่างกายของเราสามารถไปได้ไกลกว่านั้นแต่ #เพียงแต่ว่าเราลืมฝึกหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามค่ะ
A post shared by Healthymeijianorma (@meiji_27anorma) on Aug 21, 2018 at 6:10am PDT