ดูโพสต์นี้บน Instagram เชื่อว่าทุกคนมีสูตรของตัวเองนะคะ อันนี้จ๋าทำเป็นไอเดียง่ายๆเผื่อใครชอบกินเหมือนกันแล้วอยากลองทำเองดูเนอะ คิดไว้ในใจก่อนลงมือทำว่าเราชอบหมูผัดกะปิแนวไหน น้ำเยอะๆคลุกข้าวหรือแห้งๆ หรือขลุกขลิก ตกลงกับตัวเองก่อนค่อยเริ่ม อย่าไปตัดสินใจเอาตอนไฟฟู่ฟ่า มันจะเลิ่กลั่กเนาะ🤣 กะปิดีจะช่วยได้เยอะทีเดียว กะปิอันนี้แนะนำกันมาจากน้องจูนและพี่ภาสค่ะ ขอบคุณกัลยาณมิตรสายครัวนะคะ จ๋าเริ่มจากผสมน้ำตาลมะพร้าวกับน้ำมะขามเปียก ให้ได้รสเปรี้ยวๆหวานๆเตรียมตัดเค็มกับกะปิ เครื่องผัดมีตะไคร้ หอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู กะปิค่ะ หั่นทุกอย่างเป็นชิ้นเล็กๆก่อนโขลกนะคะ มันจะได้แหลกดีค่ะ เริ่มจากบุบพริกขี้หนูส่วนหนึ่งในครกแล้วเอาขึ้นค่ะ เราจะได้พริกขี้หนูที่จะใส่ตอนท้าย แถมได้น้ำมันของพริกเคลือบครกไว้จะได้รวมกับเครื่องผัดด้วย โขลกตะไคร้ก่อน จ๋าโขลกละเอียดนิดนึงเพราะอยากได้กลิ่นรสแต่ไม่อยากได้ความเคี้ยวยากของตะไคร้ แล้วค่อยเอาหอมแดงกับกระเทียมตามลงมา ตำไปตามที่ชอบ ใส่พริกขี้หนูนิดหน่อย แล้วแต่อยากให้เผ็ดแค่ไหนนะคะ จ๋าชอบเติมตอนท้ายมากกว่า แล้วใส่กะปิตามลงไปคลุกให้เข้ากัน เราจะได้เครื่องผัดค่ะ เนื้อหมูจ๋าใช้สองส่วน 🐽🐽 สันในให้หมูนุ่มๆ กับสันคอที่มีมันนิดหน่อยพอให้หอมและกรุบได้เนื้อสัมผัสในบางคำ หั่นพอดีคำค่ะ ผัดเครื่องผัดในน้ำมันให้หอม เอาหมูตามลงไปผัด จ๋าชอบหมูผัดกะปิแบบคั่วแห้งๆหน่อย น้ำน้อยๆ จ๋ามีน้ำซุปคอยเติมอยู่ข้างๆ ไม่มีใช้น้ำสะอาดค่ะ จ๋าเติมน้ำซุปเรื่อยๆเพื่อรักษาอุณหภูมิของกระทะมากกว่าจะให้หมูแฉะนะคะ พอหมูสุกนิดนึงเติมน้ำมะขามเปียกที่ผสมไว้ คั่วหมูไปเรื่อยๆ จ๋าไม่เติมซอสอะไรแล้วเพราะอยากได้รสชาติเค็มของกะปิ หวานจากน้ำตาลมะพร้าวและเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก ผัดคั่วไปเรื่อยๆ ใส่พริกขี้หนูที่บุบไว้ตามลงไป ผัดจนหมูสีสวยทุกอย่างเข้ากัน ก่อนยกลงจ๋าจะเติมน้ำตาลทรายปลายช้อนกันน้ำซุปอีกนิดนึง หมูจะเงางามเลยทีเดียว ตักใส่จานค่ะ ซอยพริกขี้หนูใส่ลงไป บีบมะนาวแล้วโรยหน้าด้วยใบมะกรูด ก่อนกินคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน ความร้อนจะมวลเอากลิ่นรสทุกอย่างเคล้ากันนัวไปหมด คลุกข้าวร้อนๆ ไข่ต้มไข่เจียวตามใจชอบ มีน้ำซุปไว้ซดตามร้อนๆ อือ.... อาหารไทยอร่อยสุดจริงๆ สามีเติมข้าวจริงไม่จกตา ไม่ขายยำ🤣🤣 #WhatIEatToday โพสต์ที่แชร์โดย Yossie Nanakorn (@yossiebistro) เมื่อ เม.ย. 10, 2020 เวลา 1:01am PDT
เชื่อว่าทุกคนมีสูตรของตัวเองนะคะ อันนี้จ๋าทำเป็นไอเดียง่ายๆเผื่อใครชอบกินเหมือนกันแล้วอยากลองทำเองดูเนอะ คิดไว้ในใจก่อนลงมือทำว่าเราชอบหมูผัดกะปิแนวไหน น้ำเยอะๆคลุกข้าวหรือแห้งๆ หรือขลุกขลิก ตกลงกับตัวเองก่อนค่อยเริ่ม อย่าไปตัดสินใจเอาตอนไฟฟู่ฟ่า มันจะเลิ่กลั่กเนาะ🤣 กะปิดีจะช่วยได้เยอะทีเดียว กะปิอันนี้แนะนำกันมาจากน้องจูนและพี่ภาสค่ะ ขอบคุณกัลยาณมิตรสายครัวนะคะ จ๋าเริ่มจากผสมน้ำตาลมะพร้าวกับน้ำมะขามเปียก ให้ได้รสเปรี้ยวๆหวานๆเตรียมตัดเค็มกับกะปิ เครื่องผัดมีตะไคร้ หอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู กะปิค่ะ หั่นทุกอย่างเป็นชิ้นเล็กๆก่อนโขลกนะคะ มันจะได้แหลกดีค่ะ เริ่มจากบุบพริกขี้หนูส่วนหนึ่งในครกแล้วเอาขึ้นค่ะ เราจะได้พริกขี้หนูที่จะใส่ตอนท้าย แถมได้น้ำมันของพริกเคลือบครกไว้จะได้รวมกับเครื่องผัดด้วย โขลกตะไคร้ก่อน จ๋าโขลกละเอียดนิดนึงเพราะอยากได้กลิ่นรสแต่ไม่อยากได้ความเคี้ยวยากของตะไคร้ แล้วค่อยเอาหอมแดงกับกระเทียมตามลงมา ตำไปตามที่ชอบ ใส่พริกขี้หนูนิดหน่อย แล้วแต่อยากให้เผ็ดแค่ไหนนะคะ จ๋าชอบเติมตอนท้ายมากกว่า แล้วใส่กะปิตามลงไปคลุกให้เข้ากัน เราจะได้เครื่องผัดค่ะ เนื้อหมูจ๋าใช้สองส่วน 🐽🐽 สันในให้หมูนุ่มๆ กับสันคอที่มีมันนิดหน่อยพอให้หอมและกรุบได้เนื้อสัมผัสในบางคำ หั่นพอดีคำค่ะ ผัดเครื่องผัดในน้ำมันให้หอม เอาหมูตามลงไปผัด จ๋าชอบหมูผัดกะปิแบบคั่วแห้งๆหน่อย น้ำน้อยๆ จ๋ามีน้ำซุปคอยเติมอยู่ข้างๆ ไม่มีใช้น้ำสะอาดค่ะ จ๋าเติมน้ำซุปเรื่อยๆเพื่อรักษาอุณหภูมิของกระทะมากกว่าจะให้หมูแฉะนะคะ พอหมูสุกนิดนึงเติมน้ำมะขามเปียกที่ผสมไว้ คั่วหมูไปเรื่อยๆ จ๋าไม่เติมซอสอะไรแล้วเพราะอยากได้รสชาติเค็มของกะปิ หวานจากน้ำตาลมะพร้าวและเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก ผัดคั่วไปเรื่อยๆ ใส่พริกขี้หนูที่บุบไว้ตามลงไป ผัดจนหมูสีสวยทุกอย่างเข้ากัน ก่อนยกลงจ๋าจะเติมน้ำตาลทรายปลายช้อนกันน้ำซุปอีกนิดนึง หมูจะเงางามเลยทีเดียว ตักใส่จานค่ะ ซอยพริกขี้หนูใส่ลงไป บีบมะนาวแล้วโรยหน้าด้วยใบมะกรูด ก่อนกินคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน ความร้อนจะมวลเอากลิ่นรสทุกอย่างเคล้ากันนัวไปหมด คลุกข้าวร้อนๆ ไข่ต้มไข่เจียวตามใจชอบ มีน้ำซุปไว้ซดตามร้อนๆ อือ.... อาหารไทยอร่อยสุดจริงๆ สามีเติมข้าวจริงไม่จกตา ไม่ขายยำ🤣🤣 #WhatIEatToday
โพสต์ที่แชร์โดย Yossie Nanakorn (@yossiebistro) เมื่อ เม.ย. 10, 2020 เวลา 1:01am PDT